เพียงถ้อยคำหนึ่งเดียว !

เพียงถ้อยคำหนึ่งเดียว ! คือสารที่ถูกประทานลงมาหลังจากอาดัม มนุษย์คนแรกที่พระเจ้าสร้างขึ้นมา ตลอดระยะเวลาในประวัติศาสตร์มนุษยชาติ พระเจ้าได้ส่งสารนี้เพียงสารเดียวเท่านั้นเหมือนกันหมดทุกประชาชาติ ทุกยุคสมัยของบรรดาศาสนทูต หนังสือเล่มนี้เขียนขึ้นเพื่อเป็นการเตือนและสะกิดให้นึกถึงสารดังกล่าว ที่ถูกประทานลงมายังอาดัม โนอาห์ อับราฮัม โมเสส เยซู และมูฮัมหมัด เพื่อให้พวกเขาประกาศว่า “พระเจ้าที่เที่ยงแท้มีเพียงหนึ่งเดียว พวกท่านจงเชื่อฟังและปฏิบัติตามพระองค์เถิด”


เพียงถ้อยคำหนึ่งเดียว !

رسالة واحدة فقط !

< تايلاندية >

        
ดร.นาญี บิน อิบรอฮีม อัล-อัรฟัจญ์


د. ناجي بن إبراهيم العرفج

 




 
ผู้แปล: เครือข่ายนักศึกษาอัสสลามกรุงเทพฯ
ผู้ตรวจทาน: ทีมงานภาษาไทยเว็บอิสลามเฮ้าส์
 
ترجمة: نادي طلبة السلام في بانكوك
مراجعة: فريق اللغة التايلاندية بموقع دار الإسلام

 

เพียงถ้อยคำหนึ่งเดียว !  

        


อุทิศแด่  
ผู้แสวงหาสัจธรรมด้วยความจริงใจ ความซื่อสัตย์ และหัวใจที่เปิดกว้าง

 

คำถามก่อนการอ่าน
•    อะไรคือ “เพียงถ้อยคำหนึ่งเดียว”?
•    คัมภีร์ไบเบิ้ลกล่าวถึงถ้อยคำนี้อย่างไรบ้าง?
•    คัมภีร์อัลกุรอานกล่าวถึงถ้อยคำนี้อย่างไรบ้าง?
•    คุณมีความเห็นอย่างไรในถ้อยคำนี้?


เข้าสู่ประเด็น
หลังจากการสร้างอดัม เพียงถ้อยคำหนึ่งเดียว อันเดิม ที่ถูกส่งลงมายังหมู่มนุษย์ ตลอดประวัติศาสตร์แห่งมวลมนุษยชาติ
ดังนั้น  เพื่อที่จะย้ำเตือนมนุษย์ถึงถ้อยคำนี้ และชักนำพวกเขากลับสู่หนทางที่ถูกต้อง บรรดาศาสนทูตและเหล่าผู้นำสาส์น  ตั้งแต่อดัม  โนอา  อับราฮัม  โมเสส  เยซู  และมุฮัมหมัด จึงถูกส่งลงมาโดย พระเจ้าที่แท้จริงองค์เดียว เพื่อที่จะแบกรับถ้อยคำนี้

 

 

 

 

 


        

---------------- อดัม                 พระเจ้าองค์เดียว

---------------- โนอา                   พระเจ้าองค์เดียว

--------------- อับราฮัม                พระเจ้าองค์เดียว

---------------- โมเสส                  พระเจ้าองค์เดียว

---------------- เยซู                     พระเจ้าองค์เดียว

---------------- มุฮัมหมัด              พระเจ้าองค์เดียว
พระเจ้าได้ส่งศาสนทูตที่สำคัญลงมา เช่นเดียวกับบรรดาศาสนทูตและเหล่าผู้นำสาส์นเพื่อที่จะทำให้งาน และภารกิจต่าง ๆ บรรลุผล ส่วนหนึ่งของภารกิจเหล่านั้นคือ   
    เพื่อน้อมรับทางนำจากพระเจ้าและเผยแผ่สู่ผู้คน
    เพื่อน้อมนำสาส์นที่ว่า “พระเจ้ามีหนึ่งเดียว”
    เพื่อเป็นแบบอย่างให้แก่หมู่ชนของพวกเขา
    เพื่อแนะนำหมู่ชนของพวกเขา ให้ยำเกรงพระเจ้า และปฏิบัติตามคำบัญชาของพระองค์
    เพื่อสั่งสอนผู้ติดตามพวกเขา ถึงความสำคัญของศาสนา หลักการทางศีลธรรม และเรื่องราวทางโลก
    เพื่อชี้ทางให้แก่ผู้หันเห (จากแนวทางที่ถูกต้อง) ไม่เชื่อฟังพระเจ้า หรือสักการะพระเจ้าอื่นๆ หรือ บรรดาเจว็ดต่าง ๆ
    เพื่อบอกผู้คนเกี่ยวกับจุดหมายปลายทางสุดท้าย     (วันสุดท้าย) ซึ่งจะนำสู่สวรรค์หรือนรก

พระองค์คือ พระเจ้าองค์เดียวกัน ผู้สร้างและส่งศาสนทูตเหล่านั้นและบรรดาผู้นำสาส์น พระองค์คือผู้ทรงสร้างมวลหมู่มนุษยชาติ  สิงสาราสัตว์  และวัตถุธาตุต่าง ๆ ทั้งมวล พระองค์คือ พระเจ้าที่แท้จริงองค์เดียว ผู้สรรค์สร้างทั้งจักรวาล (รวมทั้งธรรมชาติ) และสรรพสิ่งที่อยู่ในมัน  พระองค์คือผู้สร้างความเป็น  ความตายและชีวิตหลังความตาย
ความเป็นหนึ่งเดียว ของพระเจ้าที่เที่ยงแท้ หรือพระผู้สร้าง เป็นสิ่งที่มีหลักฐานอันกระจ่างชัด และง่ายดายต่อการสืบเสาะค้นหาในบรรดาคัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์ทั้งของชาวยิว คริสเตียน มุสลิมและอื่น ๆ
โดยการศึกษาความคิดเกี่ยวกับพระเจ้า ทั้งในไบเบิ้ลและในอัลกุรอานอย่างบริสุทธิ์ใจและมีเป้าประสงค์ ผู้ค้นหาสัจธรรมอย่างจริงใจควรที่จะสามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจนถึงคุณลักษณะหนึ่งเดียวอันเป็นกรรมสิทธิ์ของพระเจ้าที่แท้จริงเท่านั้น

บางคุณลักษณะที่แยกแยะพระเจ้าที่แท้จริงองค์นี้  ออกจากสิ่งอื่น  ซึ่งอ้างความเป็นพระเจ้า ได้แก่
    พระเจ้าที่แท้จริงนี้ทรงเป็นผู้สร้าง มิใช่สิ่งถูกสร้าง
    พระเจ้าที่แท้จริงนี้ทรงเป็นหนึ่งเดียว มิใช่สามหรือมากกว่านั้น พระองค์ไม่มีแม้หุ้นส่วนหรือสิ่งเสมอเหมือนอื่นใด
    พระเจ้าที่แท้จริงนี้ไม่สามารถมองเห็นได้ ไม่มีใครมองเห็นพระองค์ในโลกนี้  พระองค์มิใช่วัตถุกายภาพที่ถูกอุปโลกน์ขึ้นหรือทรงอวตารมาอยู่ในรูปแบบใด ๆ
    พระเจ้าที่แท้จริงหนึ่งเดี่ยวนี้ทรงเป็นนิรันดร์ พระองค์ทรงไม่ตายหรือทรงเปลี่ยนแปลง
    พระเจ้าที่แท้จริงหนึ่งเดียวนี้ มิทรงต้องการพึ่งพิงผู้ใด เช่น มารดา ภริยา หรือบุตร หรือสิ่งต่าง ๆ เช่น อาหาร เครื่องดื่ม หรือความช่วยเหลือ แต่สิ่งอื่นๆ นั้นล้วนต้องการพึ่งพิงพระองค์
    พระเจ้าที่แท้จริงหนึ่งเดียวนี้ ทรงมีความเป็นหนึ่งในคุณลักษณะของพระองค์ ไม่มีสิ่งใดเสมอเหมือนพระองค์ ไม่สามารถนำรูปร่างและคุณลักษณะทั้งของมนุษย์และสัตว์ มาเป็นคุณลักษณะของพระองค์  

เราสามารถที่จะนำบรรทัดฐานและคุณลักษณะ ต่าง ๆ เหล่านี้  (เช่นเดียวกับคุณลักษณะอื่น ๆ ที่เป็นของพระองค์เพียงหนึ่งเดียว) ในการที่จะตรวจสอบหรือปฏิเสธต่อสิ่งอื่นที่ถูกกล่าวอ้างว่าเป็นพระเจ้า
ในตอนนี้  ผมจะขอกลับไปสู่การสนทนาถึงถ้อยคำหนึ่งเดียวที่ผมกล่าวถึงข้างต้น และยกโองการจากทั้งในไบเบิ้ลและอัลกุรอาน เพื่อยืนยันถึงความเป็นหนึ่งเดียวของพระเจ้า
แต่ก่อนถึงตรงนั้น  ผมอยากจะแบ่งปันกับคุณถึงความคิดนี้

 

 

 


แม้กระนั้นก็ตาม จากการอ่านและศึกษาค้นคว้าข้อมูลอย่างละเอียดเกี่ยวกับความเป็นคริสเตียน และการสนทนากับคริสตชนจำนวนมาก ผมจึงมาสู่ความเข้าใจว่า  พวกเขาถือเอาพระเจ้าหนึ่งเดียวนี้ประกอบด้วย
1. พระเจ้า พระบิดา
2. พระเจ้า พระบุตร
3. พระเจ้า พระวิญญาณบริสุทธิ์

ดังนั้น จากพื้นฐานแห่งสามัญสำนึก และเหตุผลอย่างง่าย ผู้แสวงหาสัจธรรมที่จริงใจและซื่อสัตย์ควรจะหาเหตุผลว่า
    คุณหมายความว่าอย่างไรที่กล่าวว่าพระเจ้ามีหนึ่งเดียว ขณะที่คุณกล่าวถึงพระเจ้าสามองค์?
    พระเจ้าหนึ่งเดียวอยู่ในสามองค์ หรือพระเจ้าสามองค์ในหนึ่งเดียว (1 ใน 3 หรือ 3 ใน 1)?

ในการที่จะให้คำตอบนั้น ตามหลักการของศาสนาคริสต์  พระเจ้าสามองค์นี้มีความแตกต่างกัน  ทั้งในอัตลักษณ์ รูปลักษณ์  บทบาทและหน้าที่
1. พระเจ้า พระบิดา = ผู้ทรงสร้าง
2. พระเจ้า พระบุตร = ผู้ทรงช่วยให้รอด
3. พระเจ้า พระวิญญาณ = ผู้ทรงช่วยเหลือให้ คำปรึกษา

อีกอย่างหนึ่งคือ หากพระเยซู พระเจ้าผู้ทรงเป็นบุตร (หรือบุตรแห่งพระเจ้า) คือพระเจ้าที่แท้จริงหรือเป็นส่วนหนึ่งของพระเจ้าหนึ่งเดียว มันไม่เป็นการขัดแย้งกันกระนั้นหรือ ต่อสิ่งที่ไบเบิ้ลเองได้ยืนยันว่าไม่มีใครสามารถเห็นพระองค์ หรือได้ยินเสียงของพระองค์ คัมภีร์ไบเบิ้ลได้บอกกล่าวว่า
    “...ท่านทั้งหลายไม่เคยได้ยินพระสุรเสียงของพระองค์ และไม่เคยเห็นรูปร่างของพระองค์” (ยอห์น 5: 37)

    “พระองค์ผู้เดียวทรงอมตะ และทรงสถิตในความสว่างที่ซึ่งไม่มีคนใดจะเข้าไปถึง ผู้ซึ่งมนุษย์ไม่เคยเห็น และจะเห็นไม่ได้...” (1 ทิโมธี 6: 16)

    “และพระองค์ตรัสว่า “เจ้าจะเห็นหน้าของเราไม่ได้ ด้วยว่าไม่มีมนุษย์คนใดเห็นหน้าเราแล้วมีชีวิตอยู่ได้” (อพยพ 33: 20)

จากบรรดาโองการต่าง ๆ เหล่านี้  และโองการอื่นในไบเบิ้ล ผมขอถามอย่างจริงใจและตรงไปตรงมาว่า “เราสามารถที่จะประสานหลักการที่ว่าพระเยซูเป็นพระเจ้า    ทั้งที่ไบเบิ้ลยืนยันอย่างชัดเจนว่า ไม่มีใครเคยเห็นพระเจ้าและเคยได้ยินเสียงพระองค์?”
บรรดาชาวยิวในเวลานั้น หรือครอบครัวของท่าน หรือบรรดาสาวกต่าง เห็น พระเยซู และ ได้ยินเสียง ของท่านมิใช่หรือ?  ยังคงมีความลับใดๆ หรือเป้าหมายซ่อนเร้นอันเกี่ยวข้องกับความเป็นจริงของพระเจ้า?
ในคัมภีร์ไบเบิ้ล พระเจ้าที่แท้จริงได้ทรงยืนยันอย่างหนักแน่นว่า “เพราะพระเยโฮวาห์ ผู้ทรงสร้างฟ้าสวรรค์ พระเจ้าเองทรงปั้นแผ่นดินโลกและทำมันไว้ พระองค์ทรงสถาปนามันไว้ พระองค์มิได้ทรงสร้างมันไว้ให้ยุ่งเหยิง พระองค์ทรงปั้นมันไว้ให้มีคนอาศัย ตรัสดังนี้ว่า “เราคือพระเยโฮวาห์ และไม่มีอื่นใดอีก...เราคือพระเยโฮวาห์พูดความชอบธรรม เราแจ้งสิ่งที่ถูกต้องให้ทราบ” (อิสยาห์ 45: 18-19)    

 

 


ถึงตอนนี้ เรามาร่วมเดินทางค้นหาสัจธรรมเกี่ยวกับพระเจ้าที่แท้จริงเพียงหนึ่งเดียวในคัมภีร์ไบเบิ้ล และคัมภีร์อัลกุรอานด้วยกันเถิด
ณ ปลายทางของการเดินทางครั้งนี้ หลังจากที่ท่าน ได้ใช้สติปัญญา พินิจพิจารณา ด้วยความซื่อสัตย์ ความบริสุทธิ์ใจ และใคร่ครวญในการอ่านหนังสือเล่มนี้แล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่ง บรรดาโองการต่างๆ ที่จะได้อ้างถึงต่อไปนี้ ฉันใคร่อยากจะรู้ว่า ท่านมี ความรู้สึก หรือ มุมมอง เปลี่ยนไปอย่างไร

 

 

 

 

 


พระเจ้าที่แท้จริงเพียงหนึ่งเดียวในคัมภีร์ไบเบิ้ล (พันธสัญญาเดิม)

“โอ คนอิสราเอล จงฟังเถิด พระเยโฮวาห์พระเจ้าของเราทั้งหลายเป็นพระเยโฮวาห์องค์เดียว”   (เฉลยธรรมบัญญัติ 6: 4)

“เราทุกคนมิได้มีบิดาคนเดียวหรอกหรือ พระเจ้าองค์เดียวได้ทรงสร้างเรามิใช่หรือ....” (มาลาคี 2:10)

“พระเยโฮวาห์ตรัสว่า “เจ้าทั้งหลายเป็นพยานของเรา และเป็นผู้รับใช้ของเราซึ่งเราได้เลือกไว้แล้ว เพื่อเจ้าจะรู้จักและเชื่อถือเรา และเข้าใจว่าเราเป็นผู้นั้นแหละ ก่อนหน้าเรา ไม่มีพระเจ้าใดถูกปั้นขึ้น และภายหลังเราก็จะไม่มี เราคือพระเยโฮวาห์ และนอกจากเราไม่มีพระผู้ช่วยให้รอด (อิสยาห์ 43: 10-11)

"พระเยโฮวาห์ พระบรมมหากษัตริย์แห่งอิสราเอล และผู้ไถ่ของเขา พระเยโฮวาห์จอมโยธา ตรัสดังนี้ว่า “เราเป็นผู้ต้นและเราเป็นผู้ปลาย นอกจากเราแล้วไม่มีพระเจ้า (อิสยาห์44: 6)

“จงแจ้งเรื่องและนำเข้ามาใกล้ เออ ให้เขาทั้งหลายปรึกษาหารือกัน ใครเล่าสิ่งนี้ให้ฟังนมนานแล้ว ใครแจ้งให้ทราบมาตั้งแต่เก่าก่อน ไม่ใช่เราหรือ คือพระเยโฮวาห์ นอกจากเราไม่มีพระเจ้าอื่นเลย พระเจ้าผู้ชอบธรรมและพระผู้ช่วยให้รอด ไม่มีอื่นใดนอกเหนือเรา
มวลมนุษย์ทั่วแผ่นดินโลกเอ๋ย จงหันมาหาเราและรับการช่วยให้รอด เพราะเราเป็นพระเจ้า และไม่มีอื่นใดอีก
เราได้ปฏิญาณโดยตัวเราเอง ถ้อยคำได้ออกไปจากปากของเราด้วยความชอบธรรมซึ่งจะไม่กลับว่า ‘หัวเข่าทุกหัวเข่าจะต้องคุกกราบลงต่อเรา และลิ้นทุกลิ้นจะต้องปฏิญาณต่อเรา” (อิสยาห์ 45: 21-23)


โองการเหล่านี้เป็นเพียงบางส่วนจากคัมภีร์ไบเบิ้ล (พันธสัญญาเดิม)

 

 


พระเจ้าที่แท้จริงเพียงหนึ่งเดียวในคัมภีร์ไบเบิ้ล (พันธสัญญาใหม่)

“ดูเถิด มีคนหนึ่งมาทูลพระองค์ว่า “ท่านอาจารย์ผู้ประเสริฐ ข้าพเจ้าจะต้องทำดีประการใดจึงจะได้ชีวิตนิรันดร์”
พระองค์ตรัสตอบเขาว่า “ท่านเรียกเราว่าประเสริฐทำไมเล่า ไม่มีผู้ใดประเสริฐนอกจากพระองค์เดียวคือพระเจ้า แต่ถ้าท่านปรารถนาจะเข้าในชีวิต ก็ให้ถือรักษาพระบัญญัติไว้” (มัธทิว 19: 16-17)

“และนี่แหละคือชีวิตนิรันดร์ คือที่เขารู้จักพระองค์ ผู้ทรงเป็นพระเจ้าเที่ยงแท้องค์เดียว และรู้จักพระเยซูคริสต์ที่พระองค์ทรงใช้มา” (ยอห์น 17: 3)

“พระเยซูจึงตรัสตอบมันว่า “อ้ายซาตาน จงไปเสียให้พ้น เพราะมีเขียนไว้แล้วว่า ‘จงนมัสการองค์พระผู้เป็นเจ้าผู้เป็นพระเจ้าของท่าน และปรนนิบัติพระองค์แต่ผู้เดียว” (มัธทิว 4: 10)

“พระเยซูจึงตรัสตอบคนนั้นว่า “พระบัญญัติซึ่งเป็นเอกเป็นใหญ่กว่าบัญญัติทั้งปวงนั้นคือว่า ‘โอ คนอิสราเอล จงฟังเถิด องค์พระผู้เป็นเจ้าพระเจ้าของเราทั้งหลายเป็นองค์พระผู้เป็นเจ้าองค์เดียว” (มาระโก 12: 29)

“ด้วยเหตุว่า มีพระเจ้าองค์เดียวและมีคนกลางแต่ผู้เดียวระหว่างพระเจ้ากับมนุษย์ คือพระเยซูคริสต์ผู้ทรงสภาพเป็นมนุษย์” (1 ทิโมธี 2: 5)

 

 

 


พระเจ้าที่แท้จริงเพียงหนึ่งเดียวในคัมภีร์กุรอาน


“จงกล่าวเถิด มุฮัมมัด พระองค์คืออัลลอฮฺผู้ทรงเอกะ อัลลอฮฺนั้นทรงเป็นที่พึ่ง พระองค์ไม่ประสูติ และไม่ทรงถูกประสูติ และไม่มีผู้ใดเสมอเหมือนพระองค์”  (112: 1-4)

“แท้จริงไม่มีพระเจ้าอื่นใดนอกจากข้า ดังนั้นพวกเจ้าจงเคารพภักดีต่อข้า” (21: 25)

“แท้จริงบรรดาผู้ที่กล่าวว่าอัลลอฮ์เป็นผู้ที่สามของสามองค์ นั้นได้ตกเป็นผู้ปฏิเสธศรัทธาแล้ว ไม่มีสิ่งใดที่ควรได้รับการเคารพสักการะนอกจากผู้ที่ควรเคารพสักการะองค์เดียวเท่านั้น และหากพวกเขามิหยุดยั้งจากสิ่งที่พวกเขากล่าวแน่นอนบรรดาผู้ที่ปฏิเสธการศรัทธาในหมู่พวกเขานั้นจะต้องประสบการลงโทษอันเจ็บแสบ” (5: 73)

“จะมีพระเจ้าอื่นใดคู่เคียงกับอัลลอฮ์อีกหรือ เปล่าดอก ! ส่วนมากของพวกเขาไม่รู้” (27: 61)

“จะมีพระเจ้าอื่นคู่เคียงกับอัลลอฮ์อีกหรือ? อัลลอฮ์ทรงสูงส่งเหนือสิ่งที่พวกเขาตั้งภาคี” (27: 63)

“จะมีพระเจ้าอื่นคู่เคียงกับอัลลอฮ์อีกหรือ? จงกล่าวเถิด (มุฮัมมัด) “จงนำหลักฐานของพวกท่านมา หากพวกท่านเป็นผู้สัตย์จริง” (27: 64)

สามารถสรุปได้ว่า หลักฐานที่ได้แสดงให้ท่านได้เห็นทั้งหมดนี้และยังมีอีกหลายร้อยข้อความจากทั้งในคัมภีร์ไบเบิลและอัลกุรอานนั้นเป็นหลักฐานที่ยืนยันถึงความเป็นหนึ่ง และเป็นข้อความที่จะยังคงอยู่นิรันดรเพื่อชี้ชัดว่า พระเจ้าที่แท้จริงนั้นมีเพียงพระองค์เดียว “มวลมนุษย์ทั่วแผ่นดินโลกเอ๋ย จงหันมาหาเราและรับการช่วยให้รอด เพราะเราเป็นพระเจ้าและไม่มีอื่นใดอีก” (อิสยาห์ 45: 22)

ในคัมภีร์ไบเบิลไม่ได้ยืนยันไว้พียงพระเจ้าผู้เป็นหนึ่งเดียวเท่านั้น แต่พระเจ้าที่แท้จริงนั้น คือผู้ทรงสร้าง และผู้ที่จะช่วยเหลือคุ้มครองให้รอดพ้น “พระเยโฮวาห์ตรัสว่า “เจ้าทั้งหลายเป็นพยานของเรา และเป็นผู้รับใช้ของเราซึ่งเราได้เลือกไว้แล้ว เพื่อเจ้าจะรู้จักและเชื่อถือเรา และเข้าใจว่าเราเป็นผู้นั้นแหละ ก่อนหน้าเรา ไม่มีพระเจ้าใดถูกปั้นขึ้น และภายหลังเราก็จะไม่มี เราคือพระเยโฮวาห์ และนอกจากเราไม่มีพระผู้ช่วยให้รอด” (อิสยาห์ 43: 10-11)

 

ตามที่ได้ยืนยันไปแล้วข้างต้น บรรดาพระเจ้าหรือเทพเจ้าอื่นๆ ที่ถูกสมมุติขึ้นมา เช่น พระเยซู พระวิญญาณบริสุทธิ์ (พระจิต) พระพรหม พระวิษณุ พระศิวะ พระกฤษณะ หรือกระทั่งพระพุทธเจ้านั้น ไม่ได้เป็นพระผู้เป็นเจ้าและไม่มีสัญญาณที่ประจักษ์ถึงการเป็นพระผู้เป็นเจ้าเพียงองค์เดียวที่แท้จริง
อาจเป็นเพราะความเชื่อผิดๆ หลังจากชาวยิวได้หันไปเคารพภักดีต่อพระเจ้าอื่นๆ จากพระองค์ “เหตุฉะนั้นพระพิโรธของพระองค์จึงพลุ่งขึ้นต่อชนชาติของ พระองค์....” (อิสยาห์ 5:25) ในทำนองนั้นมูซา (โมเสส) จึงได้ทำลายเทพเจว็ดเหล่านั้นทิ้ง
ขณะเดียวกัน ชนชาวคริสต์ที่ยึดพระเจ้าองค์เดียวในช่วงแรกๆ ยอมทนต่อการถูกทรมานและถูกประหาร เนื่องจากพวกเขาปฏิเสธไม่ยอมเปลี่ยนคำสอนของพระเยซูที่เชื่อในพระเจ้าองค์เดียวจากการบิดเบือนของนักบุญเปาโลถึงหลักตรีเอกานุภาพ
กล่าวโดยสรุป บรรดาศาสนทูตทั้งหมดของพระเจ้า เช่น นบีอาดัม นบีนูหฺ (โนอาห์) นบีอิบรอฮีม (อับราฮัม) นบีมูซา (โมเสส) นบีอีซา (เยซู) และนบีมุฮัมมัด ล้วนถูกส่งลงมาจากพระเจ้าองค์เดียวกัน พระผู้เป็นเจ้าผู้ทรงประทานสาส์นเดียวกันลงมา ซึ่งมีใจความเหมือนกันหมดว่า :

 

 

ในเมื่อบรรดาศาสนทูตเหล่านั้นได้เผยแผ่สาส์นเดียวกัน ศาสนาของพวกเขาก็ย่อมเป็นศาสนาเดียวกัน แล้วศาสนาของเหล่าศาสนทูตทั้งหมดนั้นคือศาสนาอะไร?
การเชื่อฟังต่อเจตจำนงของพระผู้เป็นเจ้าคือแกนหลักของสาส์นที่ประทานลงมาผ่านศาสทูตเหล่านั้น คำว่า “ยอมจำนน” แปลว่า “อิสลาม” ในภาษาอาหรับ
คัมภีร์อัลกุรอานได้ยืนยันว่า “อิสลาม” คือศาสนาของเหล่าศาสนทูตทั้งหมด ข้อเท็จจริงจากคัมภีร์อัลกุรอานนี้สามารถกลับไปพิสูจน์ได้ในคัมภีร์ไบเบิลเช่นเดียวกัน (ซึ่งจะเป็นหัวข้อที่เราจะมาอภิปรายกันในหนังสือเล่มถัดไป ด้วยความประสงค์ของอัลลอฮฺ)
ท้ายที่สุด การที่เราจะบรรลุการไถ่บาปจากพระองค์ เราต้องน้อมรับและศรัทธาต่อสาส์นนั้นด้วยความบริสุทธิ์ใจ อย่างไรก็ตามสิ่งเหลานี้อาจไม่เพียงพอ เรายังต้องศรัทธาต่อเหล่าศาสนทูตทั้งหมดของพระองค์อีกด้วยเช่นกัน รวมทั้งท่านศาสนทูตมูฮัมมัด ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม และเจริญรอยตามทางนำและคำสอนที่ถูกต้องของท่านอีกด้วย และนี่คือประตูชัยสู่ความสุขและชีวิตอันนิรันดรทีแท้จริง
เพราะฉะนั้น หากคุณคือผู้แสวงหาสัจธรรมด้วยความ บริสุทธ์ใจและผู้รักการไถ่บาปจากพระเจ้าที่แท้จริง คุณอาจจะต้องพิจารณาและตัดสินใจได้แล้ว “ตอนนี้” ก่อนที่มันจะสายเกินไป ก่อนที่ความตายได้มาเยือนคุณ ซึ่งอาจจะเกิดขึ้นในไม่ช้านี้ โดยไม่มีใครสามารถรู้ล่วงหน้าได้


สิ่งที่ต้องมาใตร่ตรองท้ายนี้

 

 


แล้วอะไรคือสัจธรรมที่แท้จริง?   ฉันควรทำอย่างไร?

คุณสามารถ ศรัทธาอย่างบริสุทธิ์ใจในพระเจ้าที่แท้จริง (พระองค์อัลลอฮฺ) ศรัทธาในศาสนทูตคนสุดท้ายที่พระองค์ส่งลงมา แล้วกล่าวดังประโยคต่อไปนี้

 

 


คำกล่าวปฏิญาณนี้เป็นก้าวแรกสำหรับเส้นทางสู่ชีวิตอันนิรันดรและกุญแจสู่ประตูสวรรค์ของพระองค์
หากคุณเลือกเส้นทางนี้ คุณสามารถติดต่อกับเพื่อนที่เป็นมุสลิมของคุณ ศูนย์กลางอิสลามที่ใกล้ตัวที่สุด หรือแม้กระทั่งตัวผู้เขียนเอง (เรายินดีเป็นอย่างยิ่งในการช่วยเหลือ)                  

“เราเชื่อว่าคุณทำได้”


คำนิยามคำสำคัญในศาสนาอิสลาม

    อัลลอฮฺ (Allah) คือ พระนามของพระเจ้าที่แท้จริง พระผู้ทรงสร้าง พระเจ้าที่แท้จริงของมวลมนุษยชาติ (ยิว คริสเตียน มุสลิม ฮินดู และอื่นๆ)
    มุฮัมมัด (Muhammad) ศาสนทูตท่านสุดท้ายของพระเจ้าที่แท้จริง
    อิสลาม (Islam) การยอมจำนวนต่อผู้ทรงสร้าง พระเจ้าที่แท้จริง (อัลลอฮฺ) บุคคลจะบรรลุถึงความสุขและสันติสุขภายในจิตใจด้วยการยอมจำนนและเชื่อฟังพระเจ้าที่แท้จริงเท่านั้น
    มุสลิม (Muslim) บุคคลที่ยอมจำนนต่อพระเจ้าที่แท้จริง “อัลลอฮฺ (ผู้ทรงสร้าง)”
    อัลกุรอาน (Qur’an) คำดำรัสของอัลลอฮฺที่ทรงประทานผ่านท่านศาสนทูตมุฮัมมัด

ผลงานและงานเขียนของผู้เขียน

1. การค้นหาความจริงอย่างเป็นขั้นเป็นตอน (Step by Step)
    1. เขาคือใคร
    2. ธรรมชาติคืออะไร
    3. เพียงข้อความเดียว
    4. อะไรคือความจริง
    5. สิ่งใดคือข้อผิดพลาด
    6. ความสวยงามของอิสลาม
    7. ABC ของอิสลาม
    8. สิ่งต่อไปคืออะไร

2. งานเขียนที่กำลังดำเนินการ
    1. กุญแจสู่ที่สุดของความสำเร็จและความสุข
    2. จดหมายถึง “เจเน็ต”
    3. ทำไมถึงต้องเป็น “เรา”

3. ผลงานอื่นๆ
    1. รายการทีวีประจำสัปดาห์
    2. รายการทีวีแบบเป็นตอนแบบวีดีโอและไฟล์เสียง
    3. บรรยายอิสลามสาธารณะ

 

สำหรับท่านที่สนใจข้อมูลเพิ่มเติม คำถาม และคำแนะนำต่างๆ
ท่านสามารถติดต่อผู้เขียนได้โดยตรง

Dr. Naji Arfaj
Email: [email protected], [email protected]
Website: www.abctruth.net, 360itsrealbeauty.com
โทร +96655913113  P.O. Box 418 Hofuf, Ahsa 31982 KSA


เว็บไซต์แนะนำสำหรับผู้สนใจอิสลาม (ภาษาต่างประเทศ)
www.sultan.org  www.al-sunnah.com  www.islamway.com

(ภาษาไทย)
 www.islamhouse.com www.islammore.com www.islaminthailand.org www.knowislamthailand.org


ต้องการหาเพื่อนเพื่อเรียนรู้และศึกษาอิสลามในประเทศไทย
ติดต่อ แผนงานเผยแพร่อิสลาม เครือข่ายนักศึกษาอัสลามกรุงเทพฯ
โทร 086-6557790, 089-2989834, 088-8303752
Email: [email protected], [email protected], [email protected]
Facebook: BangkokAssalamStudent