เกี่ยวกับบทความ

ผู้เขียน :

راشد بن حسين العبد الكريم

วันที่ :

Thu, Oct 20 2016

ประเภท :

For New Muslim

จำเป็นต้องระวังฟิตนะฮฺที่ชัยฏอนโยนใส่พี่น้องมุสลิม


จำเป็นต้องระวังฟิตนะฮฺที่ชัยฏอนโยนใส่พี่น้องมุสลิม
] ไทย – Thai – تايلاندي [

 


ดร.รอชิด บิน หุเสน อัล-อับดุลกะรีม


แปลโดย : สะอัด วารีย์
ตรวจทานโดย : ฟัยซอล อับดุลฮาดี
ที่มา : หนังสือ อัด-ดุรูส อัล-เยามียะฮฺ มิน อัส-สุนัน วะ อัล-อะห์กาม อัช-ชัรอียะฮฺ, เว็บ al-islam.com

 

2014 - 1435
 

 

وجوب الحذر مما يلقيه الشيطان بين المسلمين من الفتن
« باللغة التايلاندية »

 

 


د. راشد بن حسين العبد الكريم

 


ترجمة: سعد واري
مراجعة: فيصل عبدالهادي
المصدر:  كتاب الدروس اليومية من السنن والأحكام الشرعية
موقع الإسلام  www.al-islam.com

 


2014 - 1435
 


ด้วยพระนามของอัลลอฮฺ ผู้ทรงเมตตา ปรานียิ่งเสมอ
จำเป็นต้องระวังฟิตนะห์ที่ชัยฏอนโยนใส่พี่น้องมุสลิม

อัลลอฮฺ ตะอาลา ตรัสว่า
﴿ وَقُل لِّعِبَادِي يَقُولُواْ ٱلَّتِي هِيَ أَحۡسَنُۚ إِنَّ ٱلشَّيۡطَٰنَ يَنزَغُ بَيۡنَهُمۡۚ  ﴾  [الإسراء: ٥٣]  
“และจงกล่าวแก่ปวงบ่าวของข้าที่พวกเขากล่าวแต่คำพูดที่ดียิ่งว่า แท้จริงชัยฏอนนั้นมันยุแหย่ระหว่างพวกเขา” อัลอิสรออ์ :53

ท่านญาบิร เราะฎิยัลลอฮุอันฮุ ได้เล่าว่า ฉันได้ยินท่านเราะสูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม กล่าวว่า
« إِنَّ الشَّيْطَانَ قَدْ أَيِسَ أَنْ يَعْبُدَهُ الْمُصَلُّونَ فِي جَزِيرَةِ الْعَرَبِ، وَلَكِنْ فِي التَّحْرِيشِ بَيْنَهُمْ » [أخرجه مسلم]
“แท้จริงชัยฏอนมันได้หมดหวังแล้วที่จะให้บรรดาคนที่ละหมาดในคาบสมุทรอาหรับหันไปเคารพสักการะมัน แต่(ยังไม่หมดหวัง)ในการสร้างความบาดหมางในระหว่างพวกเขา”  บันทึกโดยมุสลิม
ท่านญาบิร เราะฎิยัลลอฮุอันฮุ ได้เล่าว่า ฉันได้ยินท่านเราะสูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม กล่าวว่า
«إِنَّ عَرْشَ إِبْلِيسَ عَلَى الْبَحْرِ، فَيَبْعَثُ سَرَايَاهُ فَيَفْتِنُونَ النَّاسَ، فَأَعْظَمُهُمْ عِنْدَهُ أَعْظَمُهُمْ فِتْنَةً » [أخرجه مسلم]

“แท้จริงบังลังก์ของอิบลิสนั้นตั้งอยู่บนทะเล และมันก็ได้ส่งไพร่พลของมันให้ออกไปสร้างความวุ่นวายกับมนุษย์ทั้งหลาย และพวกเขาที่มีบารมีที่สุด ณ ที่ของมัน(อิบลิส)ก็คือผู้ที่ก่อความวุ่นวายมากที่สุด”  บันทึกโดยมุสลิม

ท่านอับดุลลอฮฺ บินมัสอูด เราะฎิยัลลอฮุอันฮุ ได้เล่าว่า ท่านเราะสูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม ได้กล่าวว่า
« مَا مِنْكُمْ مِنْ أَحَدٍ، إِلَّا وَقَدْ وُكِّلَ بِهِ قَرِينُهُ مِنَ الْجِنِّ» قَالُوا: وَإِيَّاكَ؟ يَا رَسُولَ اللهِ قَالَ: «وَإِيَّايَ، إِلَّا أَنَّ اللهَ أَعَانَنِي عَلَيْهِ فَأَسْلَمَ، فَلَا يَأْمُرُنِي إِلَّا بِخَيْرٍ » [أخرجه مسلم]
“ไม่มีพวกท่านคนใด เว้นแต่จะมีผู้อยู่ใกล้เขาที่เป็นญินที่ถูกมอบหมายให้อยู่กับเขา” พวกเขากล่าวว่า “แล้วท่านล่ะ? ท่านเราะสูลุลลอฮฺ” ท่านก็กล่าวว่า “และฉันก็ด้วย นอกเสียจากว่า อัลลอฮฺได้ทรงช่วยเหลือฉันให้เหนือเขา เขาจึงรับอิสลาม และเขาจะไม่ใช้ฉัน(ให้ทำสิ่งใด)นอกจากให้ทำความดีเท่านั้น”  บันทึกโดยมุสลิม

คำอธิบาย
ความเป็นศัตรูของชัยฏอนที่มีต่อมนุษย์นั้นได้รับการยืนยันแล้ว ไม่มีข้อสงสัยใดๆ  อัลลอฮฺทรงกล่าวถึงมันไว้ในอัลกุรอานเพื่อเตือนบ่าวของพระองค์ถึงแผนการร้ายของมัน ซึ่งก็คือมันจะไม่ปล่อยสิ่งใดที่อาจก่อความบาดหมางกัน นอกจากมันจะทำและพยายามถึงที่สุดในเรื่องดังกล่าวนั้น และหนึ่งในนั้นก็คือ การก่อฟิตนะฮฺและความบาดหมางระหว่างกันที่จะส่งผลให้เกิดความแตกแยก การหันหลังให้กัน และการรบราฆ่าฟันกันในระหว่างมุสลิมด้วยกัน

ประโยชน์ที่ได้รับ
•    เป็นการยืนยันถึงความเป็นศัตรูของอิบลีสที่มีต่อผู้ศรัทธา
•    จำเป็นต้องระมัดระวังฟิตนะฮฺต่างๆที่จะทำให้เกิดความแตกแยกกันในระหว่างมุสลิม และต้องเร่งดับไฟของมัน เพราะมันเป็นหนึ่งในงานของชัยฏอน