เกี่ยวกับบทความ

ผู้เขียน :

Monir Muhammad

วันที่ :

Sat, Sep 10 2016

ประเภท :

Morals & Ethics

เราะมะฎอนกับการสร้างจิตสำนึกที่ดี


เราะมะฎอนกับการสร้างจิตสำนึกที่ดี
] ไทย – Thai – تايلاندي [

 


มูนีร  มูหะหมัด

 


ตรวจทานโดย : ซุฟอัม อุษมาน
 ที่มา : เว็บ islammore.com
http://www.islammore.com/main/content.php?page=news&category=4&id=3603

 


2014 - 1435
 

 


رمضان وبناء الوعي الأخلاقي
« باللغة التايلاندية »

 

 

منير محمد

 


المراجعة: صافي عثمان
المصدر:  موقع إسلام مور
http://www.islammore.com/main/content.php?page=news&category=4&id=3603

 

 

2014 - 1435
 
ด้วยพระนามของอัลลอฮฺ ผู้ทรงเมตตา ปรานียิ่งเสมอ
เราะมะฎอนกับการสร้างจิตสำนึกที่ดี
          
คำถามที่หลายคนต้องการคำตอบคือ จิตสำนึกที่ดีคืออะไร ? จิตสำนึกเป็นพฤติกรรมที่บุคคลแสดงออกซึ่งเกี่ยวข้องกับหน้าที่ ภาระรับผิดชอบ และการทำงาน  ดังที่เราได้ยินคำพูดเหล่านี้บ่อยครั้ง เช่น จิตสำนึกของความเป็นครู จิตสำนึกของการเป็นพลเมืองดี  การมีจิตสาธารณะ จิตสำนึกของการเป็นคนดี  จิตสำนึกรักสิ่งแวดล้อม ฯลฯ ดังนั้นจิตสำนึกจึงเกี่ยวข้องกับคุณธรรมและจริยธรรมของบุคคล คำพูดเช่นนี้แสดงให้เห็นถึงความต้องการของสังคมและองค์กรให้สมาชิกและผู้ร่วมงานมีจิตสำนึกที่ดีในการปฏิบัติหน้าที่  มีจริยธรรมในการปฏิบัติงาน  มีความซื่อสัตย์สุจริต มีความรับผิดชอบ มีระเบียบวินัย ช่วยเหลือเกื้อกูล มีเมตตาธรรมกรุณาธรรม  มีความอดทน เศรษฐกิจพอเพียง มีความเสียสละ  รู้จักให้อภัย

 
            การที่บุคคลจะมีคุณธรรม  มีจิตสำนึกที่ดี  จำเป็นจะต้องมีการอบรมสั่งสอนหรือซึมซับประสบการณ์จากศาสนา  ครอบครัวที่ดี และสังคมโดยรอบที่ดี และผ่านกระบวนการทำความดีจนติดเป็นนิสัย  การที่จะทำให้จิตสำนึกเกิดขึ้นเองย่อมเป็นไปได้ยาก
ศาสนาอิสลามมุ่งมั่นให้ผู้นับถือศาสนานี้และประชาชนทั่วไป  โดยเป็นผู้ที่มีคุณธรรมจริยธรรม  ดังจะเห็นได้ว่า  โครงสร้างของศาสนาอิสลามมี 3 ประการ คือ 1) การศรัทธาซึ่ง เป็นการเชื่อมันภายในหัวใจ 2) ศาสนบัญญัติ เป็นการปฏิบัติตามกฎบัญญัติ เพื่อเป็นการเคารพภักดีและรักษาระเบียบวินัย  3) คุณธรรม เป็นการตระหนักมั่นในการทำความดี หลักทั้ง 3  ประการนี้มีความผูกพันกัน  ดังจะเห็นได้จากศาสนบัญญัติประการต่าง ๆ เช่น การละหมาด  การจ่ายซะกาต  การถือศีลอด  การประกอบพิธีฮัจญ์  นอกจากจะต้องปฏิบัติโดยถูกต้องตามบัญญัติแล้วจะต้องมีผลทางด้านจริยธรรมด้วย
 
            พระองค์อัลลอฮ์ ตรัสถึงเป้าหมายของการถือศีลอดไว้ว่า
﴿لَعَلَّكُمۡ تَتَّقُونَ ١٨٣ ﴾ [البقرة: ١٨٣]
“เพื่อสูเจ้าทั้งหลายจะยำเกรง”  (อัลบะกอเราะฮ์ / 183)

เป้าหมายของอายะฮ์นี้คือ  การถือศีลอดมิใช่เป็นเพียงการอดอาหาร  เครื่องดื่ม  การข้องแวะทางเพศในช่วงระยะเวลาที่ถือศีลอดเท่านั้น  หากแต่ผลของการถือศีลอดจะต้องสะท้อนออกถึงผลทางจริยธรรมด้วย กล่าวคือ

1 – ความซื่อสัตย์ต่อตัวเองระหว่างการถือศีลอด
         ภายใต้การกำกับของพระองค์อัลลอฮ์  ทั้งที่ลับและที่เปิดเผย  เพราะว่า  ระหว่างการถือศีลอด เขาสามารถที่จะแอบดื่มน้ำหรือรับประทานอาหารได้ขณะอยู่ตามลำพัง แต่ด้วยความซื่อสัตย์ต่อตัวเองและการกำกับของพระองค์อัลลอฮ์ ทำให้เขาระงับที่จะละเมิดบัญญัติการถือศีลอด  ด้วยสภาพเช่นนี้จึงเป็นการปลูกฝังจิตสำนึกให้บุคคลมีความซื่อสัตย์ในการใช้ชีวิตประจำวันและการทำงานตามหน้าที่รับผิดชอบ ไม่ฉ้อฉล บิดพลิ้ว ตบัดสัตย์ คดโกงต่อบริษัทและองค์กร ทำให้สามารถยกระดับจริยธรรมของบุคคลให้สูงขึ้น และเป็นการปลูกฝังจิตสำนึกที่ดีแก่เขา

2 – ความรับผิดชอบ  
          การถือศีลอดฝึกหัดให้บุคคลมีคามรับผิดชอบ รักษาเวลา  เพราะการถือศีลอดในเดือนเราะมะฎอนของศาสนาอิสลามค่อนข้างนานถึงหนึ่งเดือน  กำหนดเวลามีความแน่นอน  มีบัญญัติค่อนข้างเข้มงวด  ผู้ใดสามารถผ่านการทดสอบจากการถือศีลอดได้ จะทำให้เขาสามารถใช้ประโยชน์ไปในการสร้างจิดสำนึกต่อการมีความรับผิดชอบในการปฏิบัติหน้าที่ รวมทั้งการรักษาเวลาและการตรงต่อเวลาด้วย

3 – ความอดทน  
          ประโยชน์ประการหนึ่งที่ได้จากการถือศีลอดคือ การปลูกฝังความอดทนให้แก่บุคคลในการเผชิญต่อปัญหาและอุปสรรคในการดำรงชีวิตหรือปัญหาอื่นใดที่ถาถมเข้ามาในชีวิต  พร้อมกับหาทางแก้ไขปัญหาดังกล่าวโดยสันติวิธี  โดยวิธีที่ถูกต้องชอบธรรม  มิใช่ด้วยการใช้วิธีทุจริตหรือวิธีที่ชั่วร้าย ขณะเดียวกันการถือศีลอดสั่งสอนให้บุคคลมีความอดกลั้น ควบคุมอารมณ์มิให้แสดงความโมโหฉุนเฉียว ระงับจิตใจมิให้ฟุ้งซ่าน  ขจัดความวิตกจริตอันอาจจะเกิดขึ้น  บัญญัติอิสลามกำหนดให้บุคคลต้องถือศีลอดเมื่อเขาบรรลุศาสนภาวะและมีสติสัมประชัญญะ จึงเท่ากันเป็นการหล่อหลอมจิตสำนึกที่ดีให้บุคคลรู้จักความอดทนตั้งแต่เยาวัย

4 – เศรษฐกิจพอเพียง  
          อิสลามใช้ให้บรรดามุสลิมมีความประหยัดในการใช้จ่าย โดยให้บัญญัติการถือศีลอดให้เป็นแนวทางในการปฏิบัติ  จากการรับประทานอาหาร  3  มื้อ  และรับประทานของจุกจิกเกือบตลอดวันมาเป็นการรับประทานอาหารเพียง 2 มื้อ พร้อมกับงดการบริโภคสิ่งอื่นระหว่างมื้ออาหาร  การถือศีลอดจึงเป็นการสร้างวินัยในการใช้จ่าย  สร้างวินัยในการรับประทานอาหาร  จะนำมาซึ่งการดูแลสุขอนามัยให้แก่ตัวเอง  ไม่เป็นโรคอันเกิดจากการรับประทานอาหาร เช่น  โรคอ้วน  โรคไขมัน  โรคเบาหวาน  เป็นต้น และไม่ใช้จ่ายทรัพย์สินไปในหนทางที่ไร้ประโยชน์  พระองค์อัลลอฮ์ตรัสว่า
﴿ وَكُلُواْ وَٱشۡرَبُواْ وَلَا تُسۡرِفُوٓاْۚ إِنَّهُۥ لَا يُحِبُّ ٱلۡمُسۡرِفِينَ ٣١ ﴾ [الأعراف: ٣١]  
“และสูเจ้าทั้งหลายจงกิน จงดื่ม และจงอย่าฟุ่มเฟือย แท้จริงพระองค์ไม่ทรงรักบรรดาผู้ฟุ่มเฟือย” (อัล-อะอฺรอฟ/31)

 5 – การช่วยเหลือเกื้อกูล  
          การถือศีลอดมิได้มีเป้าหมายให้ผู้ถือศีลอดได้สัมผัสความหิวโหยแต่เพียงผู้เดียวเท่านั้น  หากแต่จำเป็นจะต้องสะท้อนออกให้เป็นสภาพความทุกข์ยากของบรรดาผู้ด้อยฐานะว่าเขาเหล่านั้นต้องลิ้มรสความหิวโหยอย่างไร  ในเมื่อเขารู้ซึ้งถึงความหิวโหยดังกล่าวความรู้สึกภายในจิตใจของเขาที่แสดงออกคือ  การมีความรู้สึกร่วมกับความหิวโหยของบรรดาผู้ด้วยฐานะเหล่านั้น  ทำให้จิตใจมีความรู้สึกเห็นอกเห็นใจพวกเขาจึงนำมาซี่งการเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ การช่วยเหลือเกื้อกูล การโอบอ้อมอารีย์  แบ่งสรรส่วนหนึ่งจากสิ่งที่มีอยู่ให้แก่พวกเขา  เพื่อแสดงออกถึงการมีน้ำใจและความเป็นพี่น้องร่วมสังคมมนุษย์ด้วยกัน

6 – การให้อภัยกัน  
          วิสัยของมนุษย์ทั่วไปมีการปฏิบัติถูกต้อง แต่ก็ไม่บริสุทธิ์จากความผิดพลาด  ความผิดพลาดที่เกิดขึ้น  บางครั้งก็เป็นส่วนเฉพาะตัวเอง  และบางครั้งความผิดพลาดเป็นการคุกคามต่อผู้อื่น เดือนเราะมะฎอนเป็นเดือนแห่งการประกอบความดี การสร้างความสันติสุข  สร้างความสามัคคีปรองดองกัน  ส่วนหนึ่งจากปัจจัยที่จะทำให้สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นก็คือ การขจัดข้อขัดแย้ง  กรณีพิพาท  และความไม่เข้าใจกัน  โดยการหาทางประนีประนอม  การให้อภัย  บรรดามุสลิมจะใช้ช่วงเดือนเราะมะฎอนในการปฏิบัติความดีร่วมกัน  ปรับความเข้าใจกัน  อันเป็นมูลเหตุนำสังคมสู่ความผาสุก
สังคมจะมีความสันติสุข  มีความอบอุ่น  มีความสามัคคีปรองดองได้ สมาชิกในสังคมจะต้องมีจิตสำนึกที่ดี  ดังนั้น  จึงสมควรที่เราจะฉวยโอกาสในช่วงเดือนเราะมะฎอนนี้สร้างจิตสำนึกที่ดีกันเถิด

ที่มา
http://www.islammore.com/main/content.php?page=news&category=4&id=3603